หัวพ่นหมอกแรงดันต่ำ vs แรงดันสูง ต่างกันอย่างไร?

บทนำ: เลือกหัวพ่นหมอกให้ถูก “งาน” สำคัญกว่าถูก “ราคา”

หัวพ่นหมอกคือชิ้นส่วนที่กำหนดคุณภาพละอองโดยตรง—ละเอียดแค่ไหน ระเหยไวหรือไม่ เปียกพื้นหรือเปล่า หลายคนเลือกจากราคาหรือแรงดันของปั๊มเพียงอย่างเดียวจนได้ผลลัพธ์ไม่สวยงาม บทความนี้จะพาคุณเปรียบเทียบ หัวพ่นหมอกแรงดันต่ำ กับ แรงดันสูง แบบใช้งานจริง พร้อม แนวทางเลือก ให้เหมาะกับคาเฟ่ ร้านอาหาร พื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง เรือนกระจก (Greenhouse) โกดัง/โรงงานกดฝุ่น ไปจนถึงงานบ้าน

คำจำกัดความเร็ว ๆ ก่อนเริ่ม

• แรงดันต่ำ (Low Pressure): โดยทั่วไปราว 7–10 บาร์ (ขึ้นกับรุ่น) มักใช้หัวพ่นรูใหญ่กว่าและปั๊มต้นทุนประหยัด

• แรงดันสูง (High Pressure): ช่วง 50–100 บาร์ ยอดนิยมที่ 60–80 บาร์ เพราะได้ละอองละเอียด ระเหยไว และไม่ทำพื้นเปียกเมื่อจูนถูกต้อง

• ขนาดรูหัวพ่น (Orifice): แรงดันสูงนิยม 0.10–0.30 มม. (เช่น 0.15–0.20 มม.) พร้อม วาล์วกันหยด (Anti-drip) ส่วนแรงดันต่ำมักใช้รูใหญ่กว่า

• คุณภาพน้ำ: น้ำกระด้าง/ตะกรันสูงจะอุดหัวพ่นง่าย ต้องมี กรองหลายชั้น และงานคุณภาพควรพิจารณา RO/Softener

ต่างกันอย่างไร: หัวพ่นหมอกแรงดันต่ำ vs แรงดันสูง

1) ขนาดหยดน้ำและการระเหย

• แรงดันสูง: ให้ละอองละเอียดระดับไมครอน ระเหยไว ดูดซับความร้อนเร็ว จึง ไม่ทำพื้นเปียก (เมื่อออกแบบและตั้งค่าถูก)

• แรงดันต่ำ: ละอองใหญ่กว่า ระเหยช้ากว่า มีโอกาสเกิดหยดและคราบน้ำบนพื้น/เฟอร์นิเจอร์

2) ประสิทธิภาพการลดอุณหภูมิ

• แรงดันสูง: เหมาะกับพื้นที่ลูกค้า/พนักงานอยู่ใกล้ เพราะให้ “ความรู้สึกเย็นไว” และสม่ำเสมอ

• แรงดันต่ำ: ใช้ได้กับพื้นที่เปิดโล่ง/ไม่ซีเรียสความละเอียดของละออง เช่น ริมสวนหรือจุดที่คนไม่อยู่ติด

3) การเปียกพื้น/เฟอร์นิเจอร์

• แรงดันสูง: โอกาสเปียกต่ำเมื่อใช้หัวพ่นถูกขนาด + ระยะห่างเหมาะสม + มี Anti-drip

• แรงดันต่ำ: โอกาสเปียกสูงกว่า โดยเฉพาะในอากาศชื้นหรือลมนิ่ง

4) เสียง/ความสั่นและส่วนประกอบเสริม

• แรงดันสูง: ใช้ปั๊มลูกสูบ/พลันเจอร์ ควรมี Pulsation Damper ฐานยาง และจุดติดตั้งที่ระบายอากาศดี เพื่อลดเสียงและชีพจรน้ำ

• แรงดันต่ำ: ระบบง่ายกว่า เสียงน้อยลงบ้าง แต่คุณภาพละอองก็ลดหลั่นลง

5) งบประมาณและการติดตั้ง

• แรงดันสูง: งบเครื่องสูงกว่า แต่ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ คุ้มกับคาเฟ่ ร้านอาหาร พื้นที่บริการ

• แรงดันต่ำ: ลงทุนเริ่มต้นต่ำ เหมาะกรณีทดลองใช้/พื้นที่รอง/งบจำกัด

6) บำรุงรักษา

• ทั้งสองแบบต้อง ล้างกรองและทำความสะอาดหัวพ่น สม่ำเสมอ แรงดันสูงไวต่อคุณภาพน้ำมากกว่า—น้ำกระด้างควรใช้ RO/Softener เพื่อลดคราบขาวและการอุดตัน

วิธีเลือกให้เหมาะกับพื้นที่จริง (เช็กลิสต์ใช้งานเร็ว)

1. วัตถุประสงค์หลัก: ลดร้อนเอาต์ดอร์ให้ลูกค้า/พนักงาน (แนะนำแรงดันสูง) หรือเพิ่มความชื้นพืช/กดฝุ่นในพื้นที่กว้าง (แรงดันกลาง–ต่ำก็เพียงพอ)

2. เงื่อนไขหน้างาน:

   • ใกล้ผู้ใช้งาน/เฟอร์นิเจอร์ไม้/พื้นผิวไวต่อคราบ → เลือกแรงดันสูง

   • ลมแรง/อากาศแห้ง → เพิ่มความหนาแน่นหัวพ่นและแบ่งโซน

3. จำนวนหัวพ่นและระยะวาง: เริ่ม 0.8–1.2 เมตรต่อหัวตามโครง/ชายคา ปรับตามลมและผลลัพธ์ที่ต้องการ

4. ขนาดรูหัวพ่น: เริ่มที่ 0.15–0.20 มม. เมื่อใช้แรงดัน 60–80 บาร์ เพื่อบาลานซ์ “ละอองสวย + ปริมาณน้ำพอ”

5. คุณภาพน้ำและการกรอง: ขั้นพื้นฐาน กรองหยาบ → กรองละเอียด (เช่น 5 ไมครอน) ถ้าน้ำกระด้างหรือมีคราบ ให้พิจารณา RO/Softener

6. ส่วนประกอบสำคัญ: Anti-drip กันน้ำหยด, Pulsation Damper ลดชีพจร, โซลินอยด์วาล์วแบ่งโซน และ คอนโทรลเลอร์ตั้งเวลา

เคล็ดลับติดตั้งให้ “เย็นไว ละอองละเอียด ไม่เปียกพื้น”

• ตั้งปั๊มในที่แห้งและระบายอากาศดี ใช้ ฐานยาง/กล่องเก็บเสียง เพื่อลดสั่น

• เดินท่อให้ครอบคลุม “ชายคา/แนวพนักพิง” มากกว่าพ่นใส่คนตรง ๆ

• ใส่ ฟิลเตอร์ก่อนปั๊มและก่อนหัวพ่น ลดเศษเข้าเครื่องและอุดหัวพ่น

• ใช้ Anti-drip กับทุกหัวพ่นในระบบแรงดันสูง

• ทดสอบ/จูนแรงดันและรอบการทำงาน (เดิน–พัก) ให้เข้ากับสภาพอากาศจริงของสถานที่

• บันทึกค่าเริ่มต้น (แรงดัน, กระแส, เวลาแต่ละรอบ) เพื่อเทียบเวลาบำรุงรักษา
  
  
  

  หัวพ่นหมอกแรงดันสูง, หัวพ่นหมอกแรงดันต่ำ, high pressure misting, 70 bar pump, หัวพ่น 0.15mm 0.2mm, evaporative cooling, outdoor cooling, greenhouse misting, dust suppression, RO water, softener, anti-drip valve, pulsation damper, solenoid zone, สายแรงดันสูง, สเตนเลสฟิตติ้ง
  
  

  FAQ: คำถามที่พบบ่อย

  ถาม: ถ้าอยากได้ไม่เปียกพื้น ควรเลือกแบบไหน?
  ตอบ: เลือก แรงดันสูง 60–80 บาร์ + หัวพ่น 0.15–0.20 มม. + Anti-drip และจูนระยะ/เวลาทำงานให้เหมาะกับลมและความชื้น

  ถาม: น้ำประปาปกติใช้ได้ไหม หรือจำเป็นต้อง RO?
  ตอบ: ใช้ได้ แต่ควร กรองหลายชั้น หากน้ำกระด้าง/มีคราบขาวชัด แนะนำ RO/Softener จะช่วยเรื่องอุดหัวพ่นและคราบสะสม

  ถาม: ต้องล้างหัวพ่นบ่อยแค่ไหน?
  ตอบ: ขึ้นกับคุณภาพน้ำและชั่วโมงใช้งาน โดยมาก ตรวจทุก 2–4 สัปดาห์ และล้างเมื่อสเปรย์เบี้ยว/ละอองหยาบผิดปกติ

  ถาม: ระบบแรงดันต่ำคุ้มไหมถ้างบจำกัด?
  ตอบ: คุ้มในพื้นที่รอง/เปิดโล่ง/ไม่ซีเรียสเรื่องละอองละเอียด แต่ถ้าเป็นพื้นที่ลูกค้าหลัก แนะนำลงทุนแรงดันสูงตั้งแต่แรกเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า

  ถาม: ต้องเว้นระยะหัวพ่นเท่าไร?
  ตอบ: เริ่ม 0.8–1.2 เมตร/หัว แล้ว ทดสอบจริง ปรับตามลม ความหนาแน่นคน และผลลัพธ์ที่ต้องการ
  
  
  

อยากได้ระบบพ่นหมอกที่ เย็นไว ละอองละเอียด ไม่เปียกพื้น และเหมาะกับหน้างานจริง?
ติดต่อทีม MR. THAI WATER เราช่วยคำนวณ จำนวนหัวพ่น/ขนาดรู, แรงดันทำงาน, Q รวม, ระบบกรองน้ำ, โซนวาล์ว–คอนโทรลเลอร์ พร้อม BOQ + ผังติดตั้ง + ใบเสนอราคา ครบชุด

• แจ้ง ขนาดพื้นที่/ทิศทางลม/คุณภาพน้ำ/ช่วงเวลาการใช้งาน

• รับสเปคที่ คุ้มงบ–ติดตั้งง่าย–ดูแลง่าย พร้อมทีมบริการทั่วประเทศ